เทคนิคดูสัญญาธงใน 10 สนามแข่งจักรยานยนต์ motocross ทั่วโลก สำหรับการ แข่งขัน Moto GP กับ 10 สนามแข่ง motocross ทั่วโลก ถือว่าเป็นสนามการแข่งขันรถจักรยานยนต์ที่ได้รับการยอมรับและรับรองจากสมาพันธ์การแข่งขันรถจักรยานยนต์ หรือ FIM แล้วทั้งสิ้นซึ่งหนึ่งในสนามแข่งขันมียนามช้าง บุรีรัมย์ของประเทศไทยรวมอยู่ด้วยและถูกจัดเป็นสนามที่ 17 ในการแข่งขันปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงนี้ด้วยเช่นกัน
สนามการแข่งขันที่ครั้งหนึ่งในชีวิตนักแข่งต้องได้สัมผัส
สำหรับ 10 สนามแข่ง motocross ทั่วโลก ที่น่าสนใจและสามารถเป็นสนามใน การแข่ง Moto GP ได้หลายปีติดต่อกัน ถือว่าเป็นสนามการแข่งที่มีมาตรฐานสูงและได้รับการรับรองแล้วถึงสภาพสนามที่มีคุณภาพจาก FIM วันนี้ขอแนะนำ สนามแข่งรถ จักรยานยนต์ ดังนี้
- สนามโลเซล อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์
- สนามเตอร์มาส เดอ ริโอ ประเทศอาร์เจนติน่า
- สนามเซอร์กิต ออฟ อเมริกา ประเทศสหรัฐอเมริกา
- สนามเซอร์กิโต เดอ เฆเรซ ประเทศสเปน
- สนามเลอมังส์ ประเทศฝรั่งเศส
- สนามออโตโดรโม เดล มูเยลโล ประเทศอิตาลี
- สนามกาตาลุนยา บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
- สนามเชสเซนริงก์ ประเทศเยอรมนี
รูปภาพจาก Main stand
- สนามทีที เซอร์กิต แอสเซ่น ประเทศเนเธอร์แลนด์
- สนามคีมีริงก์ประเทศฟินแลนด์
ทั้งหมดคือ 10 สนามแข่ง motocross ทั่วโลก ที่หยิบเอามานำเสนอในบทความนี้ นอกจากนี้แล้วยังมี สนามแข่งรถ จักรยานยนต์ที่น่าสนใจและได้มาตรฐานอีกจำนวนมากทั่วโลก รวมถึงสนามในบ้านเราเองก็ยังมี เช่น สนามช้าง ส่วนหนึ่งของช้างอารีนาในจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาที่ใช้ความเร็วอย่างการแข่งขันรถจักรยานยนต์ประเภท Moto GP ใน 10 สนามแข่ง motocross ทั่วโลก ต้องเริ่มทำความเข้าใจตั้งแต่สภาพของสนามการแข่งขันว่าผู้เข้าแข่งขันนั้นลงสนามในสนามแข่งที่ไหนเพราะแต่ละสนามจะมีระยะทางไม่เท่ากันส่วนใหญ่จะมีความยาวของระยะทางการแข่งขัน 1 รอบประมาณ 3 ถึง 5 กิโลเมตร เช่น สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตของไทยเรา มีความยาวของสนาม 4.554 กิโลเมตรมีโค้งขวา 7 โค้ง โค้งซ้าย 4 โค้งรวมทั้งสิ้น 12 โค้งโดยการแข่งขันแต่ละประเภทจะถูกกำหนดไว้โดยประมาณอยู่ที่ 10 ถึง 15 รอบแล้วแต่สภาพความยาวสั้นของสนามนั่นเอง
ในการแข่งขัน นักแข่งจะต้องพยายามทำเวลาในเร็วที่สุดและดีที่สุดในแต่ละรอบของสนามเมื่อครบ 1 รอบจะได้รับสัญญาณเป็นธงตราหมากรุกโบกสะบัด โดยในแต่ละสนามการแข่งขันซึ่ง 1 รายการมีหลายสนาม ผู้ชนะของแต่ละสนามอาจจะกำหนดไว้สำหรับผู้ทำเวลาดีที่สุดในลำดับ 1 ถึง 3 หรือลำดับ 1 ถึง 5 ก็ได้แล้วแต่ผู้จัดรายการ และเมื่อรวมเวลาทั้งหมดทุกสนามแล้ว ผู้แข่งขันคนใดทำเวลาได้น้อยที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะในรายการนั้นไป
เทคนิคการดูสัญญาณธงในสนามการแข่งขัน
สัญลักษณ์ของธงในรายการแข่งขัน MotoGP ทั้ง 10 สนามแข่ง motocross ทั่วโลก จะมีความหมายเหมือนกัน โดยแต่ละธงจะบอกให้ผู้เข้าแข่งขันรู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรในการแข่งขันช่วงเวลานั้นๆ ประกอบไปด้วย
- ธงแดง เป็นการส่งสัญญาณว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นและไม่สามารถทำการแข่งขันต่อได้ให้รถทุกคันกลับเข้าสู่ช่องการปล่อยตัวหรือ “พิท” อีกครั้ง
- ธงฟ้า เป็นการเตือนว่ามีรถจักรยานยนต์กำลังจะแซงด้วยความเร็วสูง ให้หลบ
- ธงเหลือง ห้ามแซงเพราะมีอุปสรรคอยู่ด้านหน้า รอจนมีธงสีเขียวโบกถึงจะเน่งความเร็วและแซงกันได้
- ธงเขียว สนามปลอดภัยทำการแข่งขันได้ตามปกติ
- ธงตราหมากรุก สัญญาครบ 1 รอบหรือครบรอบการแข่งขัน
- ธงดำพร้อมหมายเลข หมายถึงนักแข่งในหมายเลขดังกล่าวทำผิดกติกาต้องออกจากการแข่งขันทันที
- ธงพื้นดำวงกลมส้ม และมีหมายเลข นักแข่งหมายเลขดังกล่าวที่ปรากฏบนธง รถจักรยานยนต์มีปัญหาด้านเทคนิคต้องออกจากแทร็กทันที
- ธงขาว เป็นการแจ้งให้เข้าทำการเปลี่ยนยางเนื่องจากสภาพภูมิอากาศในขณะนั้นมีฝนตก สภาพลู่วิ่งใช้ยางสภาพปกติไม่ได้
- ธงขาวคาดแดง และธงเหลืองลายแถบแดง สนามเปียกแฉะเนื่องจากฝนตก
รูปภาพจาก : Thailand Super Series – BoxzaRacing
สัญลักษณ์ของธงประเภทต่างๆ ช่วยสร้างความปลอดภัยให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันและผู้ชมในเวลาเดียวกัน
บทสรุปสนามการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทั่วโลก
เทคนิคดูสัญญาธงใน 10 สนามแข่งจักรยานยนต์ motocross ทั่วโลก เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสนามที่มีมาตรฐานและน่าสนใจ และถูกใช้งานในการแข่งขัยรายการต่างๆ จำนวนมาก ยังมีสนามแข่งขันอีกหลากหลายแห่งบนโลกที่น่าสนใจอีกมาก และมีบางสนามที่อันตรายที่สุดแต่ก็มีผู้เข้าแข่งขันมากที่สุดเช่นกัน เพราะความเร็วและความเสี่ยงเป็นของคู่กันเสมอ
- ท่าไม้ตายในการเล่นมวยปล้ำ
- ย้อนอดีตท่าไม้ตายนักมวยปล้ำประดับตำนาน
- เทคนิคการเล่นกีฬาฟุตบอลตำแหน่งปีกของนักเตะชื่อดัง เกเรธ เบล
- เทคนิคการเป็นนักทวารที่ยอดเยี่ยม ต้องใจรักและขยันซ้อม