เทคนิคแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ กีฬาว่ายน้ำถือว่าหนึ่งรูปแบบกีฬาที่ผู้เล่น 1 คนมักจะสามารถลงสระเพื่อการแข่งขันได้หลายรายการ ทำให้นักกีฬาแต่ละคนสามารถทำสถิติและสร้างผลงานได้หลายๆ รางวัลในรายการแข่งขันครั้งหนึ่งๆ สำหรับมาตรฐานสระว่ายน้ำที่ใช้ในการแข่งขันนั้นจะเป็นสระที่มีความกว้าง x ความยาวอยู่ที่ 50 x 25 เมตร นอกจากนี้แล้วนักกีฬาว่ายน้ำยังสามารถลงแข่งขันกีฬาทางน้ำรูปแบบอื่นๆ ควบคู่ไปได้อีกด้วยเช่น ระบำใต้น้ำ โปโลน้ำ กระโดดน้ำ เป็นต้น
กติกาการแข่งขันว่ายน้ำ
ในการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องว่ายตลอดระยะทางที่กำหนดไว้ภายในลู่ของตนเอง ไม่เปไปเปมาออกนอกลู่ที่จัดลำดับไว้ โดยการกลับตัวต้องกระทำกับผนังหรือขอบสระเท่านั้นจะทำการกลับตัวด้วยการก้าว หรือเดินที่ก้นสระไม่ได้โดยเด็ดขาด และในระหว่างการแข่งขันปรากฏว่าผู้แข่งขันออกนอกลู่ตัวเองจะถึงปรับแพ้ทันที
สำหรับการแข่งขันประเภทว่ายผลัด แต่ละทีมต้องมีนักกีฬาจำนวน 4 คน และถ้าผู้เล่นคนใดกระโดดออกจากแท่นก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะว่ายเข้ามาแตะผนังสระ จะต้องให้ออกจากการแข่งขัน ยกเว้นขากลับมาแตะอีกครั้งหนึ่งโดยไม่ต้องขึ้นไปกระโดด ที่สำคัญคือเมื่อว่ายเสร็จแล้วจะต้องขึ้นจากสระทันทีอีกด้วย
ชนิดของการแข่งขันว่ายน้ำมาตรฐานสากล
ปัจจุบันรูปแบบการแข่งขันว่ายน้ำแบ่งออกเป็นหลากประเภท ตามมาตรฐานสากลของ THAILAND SWIMMING ASSOCIATION หรือ AST สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ( ส.ว.ท. ) ประกอบไปด้วย
- แข่งขันว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์50, 100, 200, 400, 800 และ 1,500 เมตร
- แข่งขันว่ายน้ำแบบกรรเชียง100 และ 200 เมตร
- แข่งขันว่ายน้ำแบบกบ100 และ 200 เมตร
- แข่งขันว่ายน้ำแบบผีเสื้อ 100 และ 200 เมตร
- แข่งขันว่ายน้ำแบบเดี่ยวผสม200 และ 400 เมตร
- แข่งขันว่ายน้ำแบบผลัดฟรีสไตล์4 x 100 และ 4 x 200 เมตร
- แข่งขันว่ายน้ำแบบผลัดผสม4 x 100 เมตร
ทั้งหมดเป็นรูปแบบที่ ส.ว.ท.ในประเทศไทยและสมาคมว่ายน้ำทั่วโลกรวมตลอดถึงกีฬาโอลิมปิกใช้อยู่
เทคนิคแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ การว่ายน้ำให้เร็วขึ้น
การว่ายน้ำต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและหนักมากเพื่อให้สามารถรักษาจังหวัดการหายใจ กล้ามเนื้อและลู่ในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำให้ได้คือการแข่งขันว่ายน้ำผู้ชนะได้ต้องว่ายเร็วที่สุด วันนี้มีเทคนิคการว่ายน้ำเร็วมาฝากกัน ดังนี้
- ลดแรงดึงของน้ำให้ได้
- เพิ่มแรงขับของน้ำให้ได้
การลดแรงดึงของน้ำ เป็นการว่ายน้ำที่เน้นทักษะไม่เน้นกำลังด้วยการสร้างสมดุล ทำตัวให้สูงขึ้นเมื่ออยู่เหนือน้ำและที่สำคัญต้องเตะน้ำอย่างกระชับไม่ต้องออกแรงมาก ส่วนการเพิ่มแรงขับของน้ำให้ส่งตัวได้ไวขึ้นนั้นให้ผู้ว่ายใช้ร่างกายด้านข้างมากขึ้น ใช้กล้ามเนื้อแกนกลางคือหลัง สะโพกและลำตัวส่งให้เกิดแรงเพิ่มและใช้แขนให้เปรียบเสมือนการทิ้งสมอในแนวตรง จะช่วยเพิ่มแรงส่งในการว่ายน้ำให้เร็วขึ้นนั่นเอง
ทั้งหมดคือรูปแบบการว่ายน้ำ กติกาและเทคนิคบางส่วนที่จะช่วยให้นักว่ายน้ำได้ฉุดคิดว่ามีทักษะอะไรที่ยังขาดอยู่ หากเพิ่มทักษะได้รับรองว่ายเร็วเป็นปลาแน่นอน
